รีวิว John Wick 3

รีวิว John Wick 3

รีวิว John Wick 3

รีวิวหนังฝรั่ง สวัสดีครับ เมื่อปี 2014นั้น ได้ถือกำเนิดหนังดังเรื่องนึงขึ้นมานั้นก็คือ John Wick ภาคแรก ผลงานกำกับครั้งแรกของผกก. David Leitch และ Chad Stahelski (อดีตสตั๊นท์แมนจากThe Matrix) ได้กลายเป็นหนังที่ฮิตเกินคาดด้วยแอ็คชั่นมันส์ ๆ และ การสร้างโลกนักฆ่าที่แปลกใหม่ ว่าด้วยเรื่องของอดีตมือปืนที่ออกตามล่าพวกมาเฟียที่งัดเข้าบ้าน และ ฆ่าหมาที่เป็นของต่างหน้าภรรยาของเขา

ก่อนที่หนังจะขยายสเกลไปเป็นยุทธภพมือปืนในภาค2 (Stahelskiกำกับคนเดียว โดยLeitchไปกำกับDeadpool 2 และ Atomic Blonde) และ สานต่อความเดือดมาจนถึงภาค3เมื่อจอห์น วิค ถูกนักฆ่าทั้งโลกไล่ตามหลังจากที่เขาได้ฆ่าคนในอาณาเขตของโรงแรมคอนทิเนนทัลที่เป็นสถานที่ห้ามฆ่าคน ดูหนัง

รีวิว John Wick 3

รีวิวหนังฝรั่ง John Wick 3: Parabellum ในภาคใหม่นี้ John Wick ต้องถูกคนทั้งโลกตามล่าด้วยค่าหัว $14 ล้านเหรียญ เนื่องจากเขาได้แหกกฎกลาง โดยการฆ่าคนในพื้นที่โรงแรมของ Continental และ ยิ่งคนที่เขาฆ่าคือสมาชิกระดับสูง เขาจึงต้องสู้ และ ฆ่ากับศัตรูรอบด้านเพื่อหาทางหลบหนีออกจากเมืองนิวยอร์ก

สำหรับภาค 3 นี้ ได้รับชื่อภาคว่า Parabellum ซึ่งจริง ๆ มาจากประโยคลาตินสุดโด่งดังที่มีคำเต็ม ๆ ว่า Si vis pacem, para bellum หรือที่มีคนแปลไทยไว้อย่างเพราะพริ้งนานมาแล้วว่า แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ โดยว่ากันว่ามันเป็นประโยคที่สืบเนื่องย้อนไปได้ยันสมัยโรมันนั่นเลยแม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่ความมีชื่อเสียงของมันนั้นก็ยังสืบทอดมาสู่ภาพลักษณ์ของกระสุนปืนที่แพร่หลายที่สุดในโลกตระกูลหนึ่ง หรือก็คือ กระสุน 9 มม. ที่มีฉายาเรียกท้ายว่า พาราเบลลั่ม เช่นเดียวกับชื่อภาค 3 ของหนังนั่นเอง

นี่คือการกลับมาของหนังแอคชั่นที่สาวกหนังบู๊ทั่วโลกรอคอย และ สำหรับใครที่ลืม ๆ (ซึ่งจริง ๆ ลืมหนังตระกูลนี้ยากนะ ภาพจำมันเยอะเลย) ลองชมคลิปสรุปภาค 1-2 แบบรวบรัดมาก ๆ จากค่ายสหมงคลนี้ดูก่อนเลย เดี๋ยวจะได้เหลากันยาว ๆ ต่อ

ภาคนี้ยังคงรักษาจุดเด่นของJohn Wick ไว้ครบเหมือนเดิม คือฉากแอ็คชั่นที่เท่ ดุเดือด และ มีอารมณ์ขันแบบตลกร้ายอยู่ในที แถมยังเพิ่มความหลากหลายในฉากแอ็คชั่นให้มากขึ้นด้วย จากสองภาคก่อนที่ยังแค่ยิงกันเฉย ๆ ภาคนี้มีทั้งขี่มอเตอร์ไซค์ไปจนถึงขี่ม้าไล่ฆ่ากัน หรือแม้กระทั่งใช้หมาช่วยต่อสู้ด้วย

ส่วนความโหดเดือดก็ทวีคูณมากขึ้นเพราะศัตรูคราวนี้ของจอห์น วิคนั้นไม่ได้แค่มาเยอะ แถมยังขนความโหดมาเต็มที่ (ส่วนคีอานู รีฟส์ ยังคงโชว์ความสามารถในฉากแอ็คชั่นได้อย่างน่าทึ่งเช่นเดิม) ทำให้ฉากแอ็คชั่นที่โหดอยู่แล้วยิ่งฮาร์ดคอร์ขึ้นไปอีก ทำเอาสะดุ้งไปกับความโหด และ เว่อร์ไปเหมือนกันในบางช่วง  หนังแนะนำ

รีวิว John Wick 3

หนังเล่าเหตุการณ์ต่อเนื่อง เมื่อ จอห์น วิค (คีอานู รีฟส์) ทำผิดกฎของวงการนักฆ่าที่ห้ามทำภารกิจใด ๆ (ห้ามฆ่าแกงกันนั่นล่ะ) ในเขตธรณีของพื้นที่เป็นกลาง โดยในเรื่องนั้นคือโรงแรมคอนติเนนทัลของสภาสูงเหล่านักฆ่านั่นเอง ซึ่งการแหกกฎของวิคเพื่อล้างแค้นครั้งนี้ ทำให้สหายเก่าผู้ดูแลโรงแรมอย่าง วินสตัน (ไอแอน แมคเชน) ต้องกลั้นใจส่งคำร้องให้อัปเปหิจอห์น วิค ออกจากวงการ พร้อมตั้งค่าหัวสูงถึง 14 ล้านเหรียญ

ผลคือนอกจากจอห์นจะไม่ได้รับความช่วยเหลือใด ๆ จากคนทั้งโลกนักฆ่าแล้ว เขายังถูกทั้งโลกตามล่าด้วยค่าหัวที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ทิ้งค่าหัวอันดับสองบนตารางกระจุย หนังเล่าเรื่องแบบไร้รอยต่อมาที่ภาคนี้ เมื่อจอห์นมีเวลาเหลืออีก 1 ชั่วโมงก่อนคำสั่งอัปเปหิจะถูกประกาศ ดูหนัง

เขาจึงดิ้นรนสุดชีวิตในการมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อที่จะยังมีคนได้จดจำเรื่องราวของคนรักของเขาต่อไป (โรแมนติกไปแล้วเฮีย) ซึ่งการดิ้นรนของจอห์นนี่ล่ะคือสิ่งที่เรียกว่า แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ คือหนทางแห่งสันติที่เขาจะไม่ต้องฆ่าทุกคนที่จะมาฆ่าเขา นั่นคือการก่อสงครามเพื่อกรุยทางไปเจรจากับผู้ครองอำนาจสูงสุดแห่งโลกนักฆ่าให้ยกเลิกคำสั่งอัปเปหิเขานั่นเอง

และ บอกได้เลยว่าเส้นทางที่จอห์น วิค เลือกนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบดอกไม้แต่เป็นกองกะโหลกพะเนินเทินทึก ทั้งยังขยายจักรวาลนักฆ่าในเรื่องออกไปกว้างไกลมาก ทั้งพิธีในขนบนักฆ่าที่แปลกประหลาดที่มีมากกว่าตราโลหิตซึ่งถูกใช้ตั้งแต่ภาคที่ 2 เรื่อยมาถึงภาคนี้

ทั้งภูมิหลังที่ไม่คิดว่าจะได้รู้ของจอห์น วิค ซึ่งน่าแปลกใจทีเดียว กระบวนการยุติธรรมสุดแสนเลือดเย็น และ เที่ยงธรรมของโลกนักฆ่าผ่านตัวละครใหม่อย่าง ตุลาการ (อาเชีย เคท ดิลเลี่ยน – นักแสดงสาวจาก Orange Is the New Black) ที่ทำเอาผู้ทรงอำนาจอย่างวินสตันกับ หัวหน้าแก๊งบาวเวรี่ (ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น) แทบปางตายได้

รีวิว John Wick 3

รวมถึงทีมนักฆ่าขั้นพระกาฬที่เรียกว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกับจอห์น วิค แบบพลาดนิดเดียวก็เสียวตายได้จริง ๆ ซะที ยังรวมไปถึงโลกภายนอกนิวยอร์กที่เป็นฉากหลักของเรื่องมาตลอด 2 ภาค เราได้ไปไกลถึงแดนทะเลทราย และ โรงแรมนักฆ่าที่นอกเหนือจากคอนติเนนทัลด้วย คือหนังขยายไปได้ไกลมาก และ อาจเผยลาสต์บอสของแฟรนไชส์นี้ไว้ด้วย ต้องติดตามเลย

หลายครั้งทีมงานหนังแฟรนไชส์นี้ได้ใช้คำเรียกแนวศิลปะการต่อสู้ที่ผสมหลากหลายแนวเข้ากับการใช้อาวุธไม่ว่าจะมีดหรือปืน (หรือแม้แต่ ดินสอ หนังสือ) ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ของหนังจอห์น วิคนี้ว่า Gun Fu ซึ่งเป็นการเล่นคำ Gun ผสมกับ Kung Fu

ซึ่งแม้จะไม่ใช่ศัพท์บัญญัติทางการแต่ก็ทำให้เห็นภาพแนวทางการออกแบบการต่อสู้อันโดดเด่นแพรวพราวของหนังได้อย่างดี (เหมือนตอนที่ทีมสตั๊นท์ไทยเคยผสมมวยไทยเข้ากับยิมนาสติก จนกลายเป็นงานเอกลักษณ์ระบือโลกในองก์บากมาแล้ว – งานแบบนี้ล่ะที่น่าจดจำ)

มันจึงเป็นหนังที่เราต้องทำการศึกษาทั้งการออกแบบการเคลื่อนตัว แม่ไม้ท่าทางต่าง ๆ การออกแบบซีนให้ไหลลื่นต่อเนื่อง ตลอดจนการเคลื่อนกล้อง การสอดผสานของตัวละครหลักกับทีมสตั๊นท์แมน ( และ ภาคนี้มีเหล่าน้องสัตว์มาร่วมแจมด้วยทั้ง ม้า ทั้งสุนัข โคตรโหดบอกเลย) มันเลยทำให้จอห์น วิค กลายเป็นงานหนังบู๊อ้างอิง เป็นต้นแบบเป็นครูให้หนังแอคชั่นรุ่นหลังได้ต่อยอดต่อไปแน่ ๆ ดูหนังออนไลน์

โลกยุทธภพมือปืนที่ถูกขยายสเกลขึ้นในภาคสอง ก็ถูกขยายให้กว้างขึ้นไปอีกในภาคนี้ ด้านอื่น ๆ ขององค์กรนักฆ่าจะถูกเปิดเผยมากขึ้นในภาคนี้ ทั้งบุคลากรชั้นยศอื่นที่มาปรากฎตัว อย่างผู้พิพากษา หรือ “ผู้อาวุโส” ขององค์กร มันทำให้โลกนักฆ่าของจอห์น วิค ดูมีสีสัน และ น่าค้นหามากขึ้น ราวกับสภาเจไดในสตาร์วอร์สยังไงยังงั้น แต่จุดที่น่าสนใจคือเราจะได้รู้ที่มาของจอห์น วิคด้วย ว่าเขามาจากไหน รวมไปถึงรู้จุดหมายในการต่อสู้ ว่าเขาทำไปขนาดนี้เพื่ออะไรกัน และ นั่นก็ทำให้เรารู้สึกอยากเอาใจช่วยจอห์น วิคขึ้นไปอีก

สรุป John Wick 3

รีวิวหนังฝรั่ง John Wick 3 : Parabellum เป็นหนังแอ็คชั่นเท่ ๆ อุดมความมันส์ ที่อาจจะมันส์ที่สุดในครึ่งปีแรกนี้ด้วยซ้ำ และ มันทำให้เราอยากเห็นว่าหนังภาคต่อไปของมันจะเป็นยังไงต่อ เพราะมันทิ้งปมตอนท้ายได้น่าติดตามเหลือเกิน ดูหนังออนไลน์

จุดเด่น
** สไตล์เอกลักษณ์ที่สร้างแฟรนไชส์ จอห์น วิค ได้แข็งแรงอย่างต่อเนื่อง ชมกันยาว ๆ ไปอีกกี่ภาคก็ไม่เบื่อ
** ความจัดเจนในการออกแบบดีไซน์ แสง ฉาก ซีนการต่อสู้ สุดยอด
** ผูกเรื่อง และ ขยายรายละเอียดของโลกสมมติได้โคตรน่าติดตามต่อ
** ดาราทั้งหลักทั้งรับเชิญมาเยอะมาก คาแรกเตอร์น่าจดจำทุกตัว
** ตอบโจทย์ทุกความต้องการของคอหนังบันเทิง สนุก ตลก ดราม่า เท่ ครบรส

จุดสังเกต
** ความโหด บางฉากนี่ “ติดตา” เลย
** แอคชั่นเยอะจนรู้สึกเรื่องเดินน้อยไปนิด
** ความพยายามสร้างเรื่องราวต่อยอดที่ทำให้ภาคนี้จบไม่อิ่มนัก

คะแนน 8/10

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *