รีวิว warcraft กำเนิดศึกสองพิภพ

รีวิว warcraft - กำเนิดศึกสองพิภพ

รีวิว warcraft กำเนิดศึกสองพิภพ

ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ Based on มาจากเกมชื่อดัง Warcraft เป็นเรื่องราวของจักรวาลของเผ่าพันธุ์ต่างๆ โดยสองเผ่าพันธุ์หลักๆ ที่เห็นกันก็คือจักรวาลของ “มนุษย์” และ “ออร์ค” การเดินทางข้ามจักรวาลมาเจอกันนั้น จะเป็นอย่างไร ไปติดตามรีวิวกัน

สำหรับเรื่องราวว่าด้วยการเผชิญหน้าของสองอารยธรรมอันแตกต่าง ระหว่างฝ่ายพันธมิตรและอนารยชน เมื่อ เผ่าพันธุ์ออร์ค ผู้รักสันติและวิถีธรรมชาติ ถูกล่อลวงหวังใช้ประโยชน์จาก Sargeras จอมปีศาจผู้หวังทำลายล้างเผ่าพันธุ์ที่ขัดขืนต่อการครอบงำจากพลังชั่วร้ายอย่าง เผ่าพันธุ์มนุษย์ใน Azeroth ที่แฝงไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์จากทวยเทพ การปะทะของกองทัพ The Horde กับ Azeroth จึงเริ่มขึ้น ฝ่ายมนุษย์ก็ต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอด ขณะที่ฝ่ายออร์คก็ต้องฟาดฟัน เพื่อหนีพ้นจากการกดขี่…

แต่ไม่ว่าจุดจบของเรื่องราวในครั้งนี้จะเป็นอย่างไร บอกได้อย่างเดียวว่า นี่อาจเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งคงต้องติดตามกันต่อไป… แต่ที่แน่ๆ แค่ตัวอย่างแรกที่ปล่อยออกมาสั้นๆ เพียง 16 วินาที ก็อาจทำเอาใครหลายคนเผลอหลุดเข้าไปในโลกของ Warcraft ได้อย่างง่ายๆ เพราะไม่ว่าจะบรรยากาศบ้านเมือง หรือฉากการปะทะกันของทั้งสองเผ่าพันธุ์ ก็เรียกได้ว่า “น่าตื้นเต้น ถึงรสถึงขิง” จนอาจทำเอาใครหลายคนอดใจรอแทบไม่ไหวกันได้!!! หนังแนะนำ

ตัวหนัง Warcraft จะอิงเรื่องราวมาจากในเกม ส่วนตัวแล้วไม่ได้เล่นเกมนี้ แรกๆก็กลัวว่าจะไม่เข้าใจอยู่ เลยให้เพื่อนที่ไปดูด้วยกันช่วยอธิบายเนื้อเรื่องจากเกมให้นิดหน่อย กลายเป็นมึนกว่าเดิม 555555 … แต่ไม่ต้องกลัวว่าคนที่ไม่ได้เล่นเกมจะดูไม่รู้เรื่องค่ะ อาจจะมีงงๆบ้างว่าตัวละครนี้มาจากเผ่าไหนเป็นใครในช่วงแรกๆ แต่ว่าเนื้อเรื่องจะปูให้เราเข้าใจเองค่ะ

เรื่องหลักๆก็คือการต่อสู้กันของสองเผ่า ระหว่างมนุษย์และออร์ค ในสมัยที่ยังมีการล่าอาณานิคมเพื่อขยายเขตของตัวเอง ซึ่งชื่อหนังพ่วงมาด้วยคำว่า The Beginning นี่ก็น่าจะตีความได้ว่า เรื่องนี้คงแสดงจุดเริ่มต้นของสงครามอันยาวเหยียด คงจะมีภาคต่อแน่นอน

ที่เด่นสุดในเรื่องนี้ คือ CG ยกความดีความชอบไปเลย มีความเนียนกริ๊บ เวทย์มนตร์แต่ละอันนี้อลังการงานสร้างมาก คนที่ชอบดู CG นี่คงฟินไปตามๆกัน

ส่วนตัวเนื้อเรื่อง ถึงแม้ว่าจะเป็นการดำเนินเรื่องไปแบบเรื่อยๆก็ตาม แต่ไม่น่าเบื่อค่ะ ไม่รู้สึกง่วงเท่าไหร่ มีช่วงดราม่าแทรกๆมาบ้าง ไม่ได้มีแค่ต่อสู้อย่างเดียว

คอเกมเองก็คงไปดูกันอยู่แล้วเนอะ ส่วนคนที่ไม่ได้เป็นคอเกมก็อยากให้ลองไปดูค่ะ หนังเข้าใจไม่ยาก แถมสนุกดีอีกต่างหาก ดูหนัง

รีวิว warcraft - กำเนิดศึกสองพิภพ

รีวิว warcraft กำเนิดศึกสองพิภพ

รีวิว warcraft กำเนิดศึกสองพิภพ  เป็นการต่อสู้ของสองฝ่ายที่ต่างต้องการอยู่รอด และมีคนต้องปกป้อง สมที่เป็นเกมในตำนาน สุดยอดฉากแฟนตาซีทั้งแสงสีและการใช้เวทมนย์ต่อสู้ การเดินเรื่องอยู่ในช่วงที่มีความพอดี ทำให้ดูแล้วสนุก แม้คนไม่เคยรู้จักเกมส์นี้มาก่อนก็ไม่เป็นปัญหา ดูแล้วยังรู้สึกประทับใจอยู่เลย อีกอย่างเป็นการเปิดตัวภาคแรก แน่นอนว่าต้องมรภาคต่อไป  เว็บหนัง

อยู่แล้ว ก่อนดูก็แอบสงสัยว่าจะเป็นยังไงกับการดึงเอกมาจากเกมส์สร้างเป็นหนัง แต่แล้วก็ไม่ผิดหวัง แม้ตัวร้ายจะทำให้โมโหไปบ้าง และยังทำให้คนดูรู้สึกได้หลากหลายอารมณ์ เศร้า รัก หดหู่ มีความหวังหรือจะผิดหวัง สำหรับใครที่ลังเลอยู่แนะนำให้ไปดูเลยค่ะ warcraft กำเนิดศึกสองพิภพ สปอย

ตัวละครยิ่งใหญ่ อลังการมาก ทั้งการสร้างตัวละครมีรายละเอียดที่ชวนให้มอง แฝงไปด้วยฉากในเกมส์ ทั้งสี ทั้งภาพในเรื่อง นักแสดงทุกคนต่างมีจุดเด่นอย่างเห็นได้ชัดและเป็นที่จดจำได้ดี การนำเวทมนย์เข้ามาใช้ อาวุธของฝ่ายมนุษย์น่าแปลกตา พระเอกก็เก่งกาจทำทุกอย่างเพื่อปกป้องฝูงชน อีกฝ่ายก็ให้กำเนินลูกและจำเป็นต้องรักษาเผ่าพันธ์

เพียงต้นเรื่องบทก็ไปเร็วมากไม่ต้องรอจนเบื่อ ดูแล้วเพลิดเพลินดีค่ะ ดูหนังออนไลน์

รีวิว warcraft - กำเนิดศึกสองพิภพ

พล็อตเรื่อง

ในโลกของออร์ค พวกมันพบว่าโลกของมันกำลังเลวร้ายลงจนไม่น่าอยู่เสียแล้ว จึงคิดจะหาโลกใหม่ ซึ่งพวกมันพบว่าโลกของเหล่ามนุษย์ยังอุดมสมบูรณ์ดีอยู่ จึงคิดหาทางไปยังโลกของมนุษย์ด้วยประตูมิติ พวกออร์คมีผู้นำสูงสุดอย่างกุลดาน (Daniel Wu) ที่มีพลังอำนาจ “เฟล” อันเป็นพลังที่สรรค์สร้างขึ้นจากความตาย ดูหนังออนไลน์

พลังนี้ดึงเอาชีวิตของมนุษย์ไปป้อนให้กับประตูเพื่อก้าวเข้าสู่โลกแห่งมนุษย์ ซึ่งแน่นอน เหล่ามนุษย์มิได้เห็นดีเห็นงามด้วยแน่ จึงหาทางปกป้องโลกของตนเอาไว้

ภพฝั่งที่มนุษย์อาศัยอยู่นั้น มีพระราชา Llane Wrynn (Dominic Cooper) มีแม่ทัพด้านการรบอย่าง อันดูอิน โลธาร์ (Travis Fimmel) ชายหนุ่มร่างแกร่งที่เป็นพี่ชายของราชินี Ruth Negga (Paula Patton) ซึ่งฟากฝั่งมนุษย์ก็มีผู้ควบคุม ‘เฟล’ ได้เช่นกัน warcraft กำเนิดศึกสองพิภพ สปอยหนัง

หนึ่งในนั้นคือ หนุ่มหนวดวัยเยาว์ผู้ซึ่งยังไม่สำเร็จถึงขั้นเป็นผู้พิทักษ์อย่าง แคดการ์ (Ben Schnetzer) แต่จู่ๆ ก็เข้ามากลายเป็นส่วนหนึ่งของสงครามครั้งนี้ อีกคน คือ เมดิฟต์ (Ben Foster) ผู้พิทักษ์ที่ดูเหมือนจะพลังกำลังลดถอยลงไปด้วยเพราะเหตุบางอย่างที่ยังไม่ขอเปิดเผย

มนุษย์เหล่านี้ต้องรวมพลังสามัคคีกันเพื่อผลักดันและทำลายประตูมิติก่อนที่พวกออร์คจะยกโขยงกันมายึดพื้นที่และทำลายอาณาจักรของเหล่ามนุษย์

รีวิว warcraft - กำเนิดศึกสองพิภพ

จุดเด่น

หนังที่สร้างขึ้นจากเกมดังหลายๆ เรื่องมักจะสร้างเนื้อเรื่องขึ้นมาใหม่ถ้าเกิดว่าเกมดั้งเดิมไม่ได้มีเนื้อเรื่องอะไรมากนัก แต่สำหรับ ‘Warcraft’ ที่ถูกสร้างออกมาจำหน่ายยาวนาน มีสตอรี่เพียงพอ อีกครั้งยังมีตัวละครมากพอที่จะทำเป็นมหากาพย์ไตรภาคได้สบายๆ ที่เหลือก็อยู่ที่จะเลือกจะแบ่งเล่าเรื่องยังไงให้ลงตัว โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นภาคปฐมบทที่จะต้องช่วยปูทางสร้างความสำเร็จขั้นแรก จุดประกายให้คนสนใจใคร่ติดต่อภาคสองภาคสามถัดไป งานหนักมันจึงอยู่ตรงนี้

ซีจี 3 มิติสุดอลัง
จุดเด่นอันแรกสุดเลย คือ หนังที่มีครึ่งหนึ่งเป็นออร์ค พวกเขามีร่างกายใหญ่โต มีเขี้ยวงอกโผล่ออกมาพ้นริมฝีปาก แถมยังมีหลายเผ่าพันธุ์ ทั้งหมดต้องใช้เทคนิคพิเศษเพื่อสร้างภาพการเคลื่อนไหวให้เหมือนจริง อีกทั้งภูมิทัศน์ต่างๆ แทบจะไม่เห็นสิ่งใดเป็นของจริงเลย การพึ่งพาเทคโนโลยีและทีมสร้างงานภาพจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากกับภาพยนตร์เรื่องนี้  warcraft กำเนิดศึกสองพิภพ ซับไทย

การถ่ายทอดงานภาพที่ออกมานั้นชัดเจนว่ามีความใกล้เคียงกับเกมที่คอเกมคุ้นเคยกันอยู่

หากแต่ถ้าพิจารณาภาพอย่างละเอียด ก็จะพบว่า บางจุดหรือบางช่วงของภาพบนจอ จะดูลอยๆ หรือเก็บจุดเล็กจุดน้อยไม่ครบถ้วน อาจพบเห็นได้เพียงเสี้ยววินาที เมื่อดูด้านงาน 3 มิติ ถือว่าสร้างโดยคำนึงถึงความเป็น 3 มิติได้ดีมาก พุ่งทะลุออกมาอย่างชัดเจน แต่ก็นั่นแหละ บางส่วนของภาพก็ยังดูเพี้ยนๆ ลอยๆ ให้จับได้อยู่

รีวิว warcraft กำเนิดศึกสองพิภพ บทสรุป

รีวิว warcraft กำเนิดศึกสองพิภพ  งานกำกับจากเจ้าของผลงานอย่าง ‘Moon’
ถือเป็นการกระโดดขึ้นมากำกับหนังฟอร์มยักษ์ของ Duncan Jones (ผกก. จาก ‘Moon’ และ ‘Source Code’ ซึ่งค่อนข้างได้กระแสตอบรับที่ดี) เลยก็ว่าได้ เขาทั้งรับหน้าที่กำกับภาพยนตร์และเขียนบทเอง ซึ่งในส่วนการเขียนบทก็จะมี Charles Leavitt เข้ามาช่วยอีกแรงด้วย

งานกำกับหนังฟอร์มใหญ่ถือไปได้ไม่เลวนัก สำหรับคอเกมวอร์คราฟต์ที่เล่นมาทุกภาคคงเข้าใจเรื่องราวได้ทั้งหมด แต่สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นมาก่อน อาจต้องพบว่าไม่สามารถต่อติดกับเรื่องราวได้ทั้งหมดด้วยเหตุผลหลายประการ warcraft กำเนิดศึกสองพิภพ บทสรุป

หนึ่ง คงเป็นที่ตัวละครในเรื่องนั้นค่อนข้างเยอะแยะ ทั้งชื่อ ทั้งเผ่าพันธุ์ ทั้งเมืองเล็กเมืองน้อยต่างๆ ผู้ชมคงต้องจดจำทุกอย่างในเวลาอันแสนสั้น

ปูเรื่องราวค่อนข้างเบาบาง และเดินเรื่องอย่างรวดเร็ว
อีกหนึ่งคือการเล่าเริ่มเรื่องที่ไม่ครอบคลุมพอ เล่าเพียงคร่าวๆ แล้วไปต่อ จนคนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางมาก่อนเป็นงงว่าตกลงเรื่องราวมันเป็นมายังไง โดยเฉพาะทางฝั่งมนุษย์ที่มีพระราชาผู้ที่เราไม่เห็นแง่มุมด้านลึกมากพอ และผู้พิทักษ์ที่เราไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องมีสระสีฟ้า ซึ่งหากมองโลกในแง่ดีก็คือ เขาอาจจะหยิบมาเล่าในภาคถัดๆ ไป

โดยรวมหนัง

หนังยังมีปัญหาด้านการตัดต่ออยู่บ้าง เหมือนว่ามันจะเดินไปข้างหน้าด้วยกำลังช้างสาร มิสนจะรีรอผู้ใดที่ตามมาข้างหลัง ผู้ชมไม่มีบางเวลาเอาไว้ให้ซึมซับความรู้สึกของตัวละคร ไม่มีช่วงผ่อนแล้วมาเล่นซีนอารมณ์ให้คนดูได้อินเพื่อจะได้เอาใจช่วยพวกเขา

หากพิจารณาด้านความสวยงามด้านงานภาพ ถือว่า ‘Warcraft: The Beginning’ ก็ทำได้ค่อนข้างดี แต่มีปัญหาอยู่บ้างในการปูเรื่องไม่ลงลึกมากพอและการเล่าเรื่องที่เดินหน้าเร็วเกิน ไม่ทำให้อินกับตัวละครได้อย่างที่ควรจะเป็น  warcraft กำเนิดศึกสองพิภพ สนุกไหม

แต่ก็ยังหวังว่า เราจะได้ดูจบครบทุกภาคอยู่ดี หนังฝรั่ง netflix แนะนํา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *