รีวิว The Dark Knight

รีวิว The Dark Knight

รีวิว The Dark Knight

รีวิวหนังฝรั่ง แอดเชื่อว่าเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ หลาย ๆ คนนั้น คงจะชื่นชอบแบทแมนกันไม่มากก็น้อยครับ อย่างหนังฮีโร่ฝั่ง DC อย่าง แบทแมน นั้น ก็คงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักหนังภาคต่อจากแบทแมน ในชื่อเรื่องว่า Batman: The Dark Knight ที่ได้ปล่อยฉายมาในปี 2008 ซึ่งหนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังชุดลำดับที่ 6 จากมหากาพย์ภาพยนตร์แบทแมน ที่ได้ได้รับการขนานนามว่า เป็น หนังแอคชั่นซุปเปอร์ฮีโร่

รีวิว The Dark Knight

ที่สามารถสร้างตัวละครอย่าง โจ๊กเกอร์ ออกมาในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดได้ ตั้งแต่เคยมีการแสดงบทโจ๊กเกอร์มาแล้วหลายเวอร์ชั่น นั่งชมกันต่อเนื่องไปเลย หลังจากย้อนหลังกลับไปชม Batman Begins ภาคปฐมบทของแบทแมนฉบับ Christopher Nolan มาแล้ว คราวนี้ก็คงได้เวลาตามต่อกับภาคสอง The Dark Knight / อัศวินรัตติกาล

The Dark Knight | อัศวินรัตติกาล ในสไตล์ของ Christopher Nolan แบทแมน อัศวินรัตติกาลนี่คือภาคต่อของภาคแรก 2008 สามปีถัดมา Christopher Nolan ก็ส่งภาคต่อออกมาให้แฟนๆ ที่รอคอยได้ติดตามชมกัน หลังจากทิ้งท้ายไว้ด้วยไพ่ใบหนึ่งที่เป็นที่มาของชื่อ “โจ๊กเกอร์” ภาคนี้ วายร้ายนามนี้ก็ได้เวลาออกโรง เว็บดูหนัง

รีวิว The Dark Knight

รีวิวหนังฝรั่ง ต้องบอกก่อนเลยว่า หนังแอคชั่นซุปเปอร์ฮีโร่อย่าง แบทแมน นั้น นอกจากมีตัวละครสำคัญอย่าง แบทแมท ที่เป็นตัวละครฝั่งผดุงคุณธรรมแล้วนั้น หนังเรื่องนี้ยังมีตัวละครชูโรง ที่มีผู้ชมส่วนมากให้ความสนใจอย่าง โจ๊กเกอร์ ร่วมอยู่ด้วย ซึ่งหนังแบทแมนในภาคก่อน ๆ นั้น โจ๊กเกอร์ อาจจะเป็นเพียง ผู้ร้าย ที่คอยต่อกรกับแบทแมนเท่านั้น แต่สำหรับบทโจ๊กเกอร์ ในภาค Batman:The DarkKnight ตัวละครอย่าง โจ๊กเกอร์ กลับได้รับบทบาทที่มีความโหด ความดาร์ค ความฉลาด และมีทักษะเก่งกาจไม่แพ้ซุปเปอร์ฮีโร่อย่างแบทแมนเลยแม้แต่นิดเดียว

อีกทั้งนักแสดงที่ได้รับบท โจ๊กเกอร์ ในภาค Batman:The DarkKnight อย่าง ฮีธ เลดเจอร์ นั้น สามารถตีบทแตก แสดงออกถึงความดิบ โหด ป่าเถื่อน และความดาร์คขั้นสุด ที่มาพร้อมกับการตกตะกอนความคิด และวางแผนก่อการได้อย่างแนบเนียน โดยเฉพาะในเรื่องของการปั่นหัวเหล่าตัวละครภายในเรื่องนั่นเอง

ซึ่งหลังจากหนังเรื่องนี้ได้ปล่อยฉายออกมาแล้วนั้น ตัวละครอย่าง โจ๊กเกอร์ ก็ได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม โดยเฉพาะเรื่องของการตีบทแตก ทำเอาคนดูอินไปกับการแสดงออกของตัวโจ๊กเกอร์ได้อย่างแท้จริง ที่ไม่ว่าจะเป็นฉากแอคชั่น การต่อสู้ต่าง ๆ หรือฉากของโจ๊กเกอร์ที่ชอบพูดจาเย้าหยอกปั่นหัวตัวละครอื่น ๆ ภายในเรื่อง ก็สามารถทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยม

รีวิว The Dark Knight

โจ๊กเกอร์ แบทแมน เดอะ ดาร์ค ไนท์ ถึงแม้ว่านักแสดงบท โจ๊กเกอร์ อย่าง ฮีท เลดเจอร์ จะได้เสียชีวิตลงไปหลังจากหนังออกฉายได้เพียงไม่นาน แต่บทบาทการแสดงเป็นโจ๊กเกอร์ของเขานั้น ยังคงตราตรึงใจผู้ชม และกลายเป็นนักแสดงที่รับบท โจ๊กเกอร์ ได้ดีที่สุดเท่าที่เคยมีบทโจ๊กเกอร์ออกมาเลยอีกด้วย

ต้องบอกเลยว่าหนังแอคชั่นอย่างเรื่อง Batman:The DarkKnight นั้นมีมากกว่าฉากบู๊แอคชั่นทั่ว ๆ ไป ที่นอกจากจะมีฉากการต่อสู้สุดตระการตาแล้วนั้น ตัวหนังยังแฝงถึงเรื่องราวความรู้สึกนึกคิดของตัวละครอย่าง โจ๊กเกอร์888 ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ถือว่าเป็นหนังแอคชั่นที่มอบทั้งความสนุกสุดมันส์ แต่ยังคงแฝงไปด้วยเรื่องราวความดาร์คตามชื่อเรื่องได้อย่างไม่มีที่ติเลยนั่นเอง

เริ่มต้นที่เหตุปล้นเงินในธนาคารอย่างอุกอาจ เปิดเผยโฉมหน้าของ “โจ๊กเกอร์ / Joker” ว่าประหลาดล้ำเพียงใด กับหน้าจริงที่ทาสีเพิ่ม พร้อมกับรอยแผลเป็นที่มุมปาก ใช่แล้ว เขาคือ Heath Ledger ผู้จากไปนั่นเอง ขณะที่ Batman กลับมาภาคนี้ Christian Bale ดูมีริ้วรอยบนใบหน้าเพิ่มเติมขึ้นนิดหน่อย และยังมีอัลเฟรดเป็นคนสนิทคนเดิมคอยดูแล ขณะที่อัยการเขตคนใหม่อย่าง ฮาร์วีย์ เดนท์ (Aaron Eckhart) กำลังได้ เรเชล ดอว์ส (ที่คราวนี้เปลี่ยนตัวเป็น Maggie Gyllenhaal) ไปเป็นแฟน

ส่วน จิม กอร์ดอน (Gary Oldman) เขากลายเป็นหัวหน้ากองปราบฯ ผู้รับรู้เรื่องการปล้นเงินของแก๊งมาเฟีย หลังทีมของพวกเขา (ที่ก็เลือกมาจากพวกโกงกินทั้งนั้น) และแบทแมนไปเล่นจุดตายคือเรื่องเงินของพวกมันเข้า จึงทำให้พวกมันคิดขโมยเงินในธนาคารออกมา เพื่อยักย้ายไปเก็บที่อื่นนั่นเอง ดูหนัง

ภารกิจครั้งนี้ ขยายวงไปไกลถึงฮ่องกง หนังที่ยาวกว่าสองชั่วโมงครึ่ง พาเราไปพบกับเรื่องราววกวนซับซ้อนซ่อนเงื่อน ที่น่าฉงนแต่ดูแล้วสนุก

สรุป The Dark Knight

รีวิวหนังฝรั่ง โจ๊กเกอร์ ดูเป็นวายร้ายที่ไม่ค่อยเข้าพวกกะใคร มีวิธีคิดเป็นของตัวเองและเดาทางได้ยาก แต่นั่นล่ะ ทำให้ The Dark Knight ถูกเล่าในทิศทางที่คนดูเดาไม่ออก อีกทั้งการมีตัวละครอยู่มากมาย ทั้งร้ายทั้งดี ทำให้การเขียนบทยืดหยุ่นได้สูง แต่ก็ต้องได้มือเขียนที่เจ๋งด้วยเช่นกัน ที่จะเอาอยู่ทั้งหนังและคนดูแบบนี้

เราได้เห็นด้านที่อ่อนไหวของซูเปอร์ฮีโร่ชุดดำผู้มีคุณธรรม เขาคือคนที่สังคมเลือกไส เขาเลือกทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้–สิ่งที่ถูกต้อง ข้อเรียกร้องของโจ๊กเกอร์ คือ การให้แบทแมนเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริง เขาเกือบจะได้ทำมันไปแล้ว หากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นได้สร้างให้เกิดอีกด้านหนึ่งของคนดีอีกคนขึ้นมา…

รีวิว The Dark Knight

หลายครั้งที่เราได้เห็นอัยการเขตคนนี้หยิบเหรียญขึ้นเสี่ยงทาย แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาบอกว่า “เขาไม่ได้เสี่ยง” คือวันที่ยินดีไปเป็นตัวล่อเพื่อการจับกุมโจ๊กเกอร์ และหนังก็เฉลยว่า ทำไม หนังค่อนข้างยาวมาก แต่ก็เล่าอะไรได้ทรงพลังมากๆ อยู่หลายฉากเช่นกัน โดยเฉพาะการโยนความรู้สึกกระอักกระอ่วนให้คนดูลองเลือกเองในใจว่า ใครควรตายมากกว่ากัน ระหว่างคนปกติกับคนชั่วของสังคม ต่อมศีลธรรมต้องทำงานกันวุ่นเลยทีเดียว

ในส่วนของการถ่ายทำ นับว่าการถ่ายทำด้วยมุมกล้อง การตัดต่อ ผสานไปกับเสียงดนตรีประกอบ ทำให้นี่เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ทำได้ “ถึงใจ” ที่สุดเรื่องหนึ่ง ครบเครื่องทั้งลีลาฉากแอ็คชั่น และซับซ้อนในด้านบท แม้ในขณะที่คนดูเชื่อว่าเรื่องกำลังจะจบ ก็ยังมีเรื่องต่อให้ลุ้นกันอีกเกือบครึ่งเรื่องเลยทีเดียว บางคนอาจจะว่าหนังดูเครียด แต่หนังก็สะท้อนให้เห็นโลกจริงๆ ว่ามันมีสิ่งเหล่านี้อยู่ และเราอาจจะต้องการฮีโร่สักคนขึ้นมาจริงๆ ก็ได้
คุณอยากตายไปในฐานะฮีโร่ หรืออยากอยู่ไปจนตัวเองกลายเป็นวายร้าย! เว็บหนัง

ชื่อภาพยนตร์ : The Dark Knight / อัศวินรัตติกาล
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Christopher Nolan
ผู้เขียนบทภาพยนตร์ : Jonathan Nolan (screenplay), Christopher Nolan (screenplay), Christopher Nolan (story), David S. Goyer (story), Bob Kane (characters)
นักแสดงนำ : Christian Bale, Heath Ledger, Aaron Eckhart, Michael Caine, Maggie Gyllenhaal, Gary Oldman, Morgan Freeman
แนว/ประเภท : Action, Crime, Drama, Thriller
เรท : USA/PG-13
ความยาว : 152 นาที
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย : Warner Bros. Pictures, Legendary Pictures, Syncopy
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย : 17 July 20

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *