รีวิวWhat She Likes ฉันวาย นายเกย์ ขอหัวใจอย่าเซย์โน

What She Likes

What She Likes

ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากนิยายขายดีอย่าง Kanojo ga Suki na Mono wa Homo deatte Boku de wa Nai (What She Likes Are Homosexuals, Not Me) ของนักเขียน นาโอโตะ อาซาฮาระ ที่ออกตีพิมพ์ในปี 2018 และถูกหยิบไปดัดแปลงเป็นซีรีส์ออกฉายทางช่อง NHK ในปี 2019 นำแสดงโดย ไดจิ คาเนโกะ และ เคียวโกะ ฟูจิโนะ รวมถึงยังได้รับการดัดแปลงเป็นฉบับมังงะโดย ComicWalker ในปี 2019-2020  รีวิวหนัง

โดยฉบับภาพยนตร์บอกเล่าเรื่องราวของ จุน อันโด (คามิโอะ ฟูจู) หนุ่มมัธยมปลายที่ต้องปกปิดว่าตนเองเป็นเกย์จากคนรอบข้าง เพื่อที่จะสามารถเข้ากับกลุ่มเพื่อนในโรงเรียนได้อย่างเป็นปกติ กระทั่งวันหนึ่งจุนได้บังเอิญมาพบกับ ซาเอะ มิอุระ (ยามาดะ อันนะ) หญิงสาวร่วมห้อง ณ ร้านหนังสือการ์ตูน Boy’s Love (BL) แห่งหนึ่ง ซาเอะจึงขอร้องให้จุนปิดเรื่องที่เธอเป็นสาววายไว้เป็นความลับ หนังฟรี

เมื่อวันเวลาผ่านไป ซาเอะที่เริ่มมีใจให้กับจุนจึงสารภาพรักกับเขา ซึ่งทำให้จุนตัดสินใจคบหากับซาเอะ เพื่อหวังว่าจะได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติแบบไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ และนั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวความสัมพันธ์ที่จะทำให้เขาและเธอได้เรียนรู้ในกันและกัน

What She Likes

ปัจจุบันนี้ ประเด็นของความหลากหลายทางเพศถูกหยิบมาเป็นพล็อตสร้างกันบ่อยครั้งขึ้น เหตุเพราะผู้คนเริ่มพูดถึงมันมากขึ้น มีความเคลื่อนไหวและผู้คนก็เริ่มจะเปลี่ยนแปลงความคิดที่มีต่อพวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ แม้จะยังไม่ใช่ส่วนใหญ่ที่มองเรื่องนี้อย่างเข้าใจ แต่ก็เห็นว่ามากพอที่หนังเล่าประเด็นนี้จะได้รับความสนใจ อีกทั้งเมื่อมีมากขึ้น แรงขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงก็ยิ่งจะแข็งแรงมากขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะในสังคมที่ยังไม่ค่อยเห็นความชัดเจนมากนัก

หลายๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นหนังหรือซีรีส์ บอกเล่าเรื่องของการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนในสังคมที่ถูกมองเป็น ‘ปกติ (normal)’ ของคนที่ไม่ใช่ชายหรือหญิงแท้ตามเพศกำเนิด พวกเขาประสบความยากลำบากในการจะเปิดเผยตัวตนให้คนรอบข้างรับรู้ หลายคนจึงปกปิดเอาไว้และแสร้งทำเป็นว่าตนก็เหมือนกับคนอื่นทั่วๆ ไป หลายคนที่กล้าเปิดเผยแต่ก็ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดจากคำพูดและสายตาของคนเหล่านั้น โดยเฉพาะคนในครอบครัว ดูหนังฟรี

What She Likes

บ้านเรากระแสความนิยมเกี่ยวกับจักรวาล BL หรือ ความบันเทิงเนื้อหาวาย กำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น ๆ เห็นได้จากกองทัพซีรีส์วายที่แทบจะมีผลิตกันออกมาฉายเยอะกว่าละครทั่วไปแล้วด้วยซ้ำ หรือนี่จะเท่ากับว่าบ้านเราเป็นประเทศที่เปิดให้การยอมรับเกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศแล้วจริง ๆ หรือ และการมาของหนังญี่ปุ่นที่ชื่อว่า “What She Likes” (ฉันวาย นายเกย์ ขอหัวใจอย่าเซย์โน) จะมาแค่เพียงเติมเต็มกระแสวายเฉย ๆ หรือมีอะไรแตกต่างให้กับคนดูหรือไม่นะ ไปค้นหาคำตอบจากหนังเรื่องนี้กัน

ปัจจุบันซีรีส์วายในเมืองไทยไม่ใช่ของแปลกใหม่และถึงขั้นได้กลายเป็นละครหลังข่าวในช่องใหญ่มาแล้ว แต่ข้ามกลับไปที่ประเทศผู้ให้กำเนิดอย่างญี่ปุ่นที่มีมังงะประเภทบอยเลิฟ มีตัวละครผู้ชายรักกันให้ชวนจิ้นหรือภาษาญี่ปุ่นเรียก “ยาโยย” หรือที่สาวไทยยุค 90s เรียกว่าการ์ตูนวาย กลับก่อร่างสร้างตัวในฐานะมังงะนอกกระแสที่แผ่อิทธิพลไปทั่วโลกและทีละน้อยมันก็กลายเป็นสื่อระดับแมสในหลายพื้นที่รวมถึงที่ประเทศไทยด้วยจึงเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้ดูหนัง ‘นิยายที่พูดถึงสาววายและการปกปิดตัวตนของเกย์ในสังคมโรงเรียนมัธยมญี่ปุ่น

หนังมาใหม่ เปิดปมสำคัญที่ร้านขายมังงะในบ่ายวันหนึ่งเมื่อ มิอุระ (รับบทโดย อันนา ยามาดะ) สาวน้อยชมรมศิลปะที่เป็นสาววายเต็มขั้นได้แอบมาซื้อการ์ตูนบอยเลิฟและได้พบกับอันโด (รับบทโดย คามิโอะ ฟูจู) เพื่อนร่วมชั้นของมิอุระจนเธอต้องขอให้เขาปกปิดความลับเรื่องความคลั่งใคล้มังงะบอยเลิฟของเธอและเพื่อให้แน่ใจว่าความลับของเธอจะไม่รั่วไหล มิอุระจึงวางแผนชวนอันโดออกเดตและพาเธอเข้าสู่โลกของสาววายจนนานวันความรู้สึกของมิอุระก็ท่วมท้นจนเกิดเป็นความรัก โดยหารู้ไม่ว่าอันโดต้องทุกข์ทรมานกับการปกปิดตัวตนว่าเขาชอบผู้ชายและความสัมพันธ์ระหว่างเขากับมาโกโตะ (รับบทโดย สึบาสะ อิมาอิ) หนุ่มใหญ่ที่มีเมียกับลูกเป็นตัวเป็นตน

What She Likes

เรื่องราวของ จุน นักเรียนมัธยมที่เป็นเกย์ แต่เขาไม่เคยบอกกับเขาเกี่ยวกับเพศสภาพของเขา ก่อนที่จะได้รู้จักและพบกับเพื่อนนักเรียนหญิงร่วมชั้นที่ชื่อ ซาเอะ เธอเป็นติ่งมังงะแนว BL (การ์ตูนวาย) เขาเห็นเธอที่ร้านหนังสือการ์ตูนเฉพาะแนว แต่เธอก็เป็นอีกคนที่เคยบอกถึงรสนิยมนี้ของตัวเองให้กับใครได้รู้ แต่เธอกลับรู้สึกหลงใหลในความหล่อเหลาของจุน โดยที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นเกย์ ทั้งคู่จึงได้รู้จักและใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งเธอตัดสินใจบอกความรู้สึกที่มีต่อเขาออกไป เขาจึงตอบรับความรู้สึกของเธอไป และออกเดตด้วยกัน จนกระทั่ง ดูหนังออนไลน์

มิอุระซัง กับ อันโดคุง เพื่อนร่วมชั้นเรียนที่บังเอิญว่าฝ่ายหลังได้ล่วงรู้ความลับของฝ่ายแรกก่อน แต่เป็นฝ่ายแรกที่หลงรักฝ่ายหลังก่อน โดยไม่รู้เลยว่าเขาเป็นเกย์ สิ่งที่เราคิดแว้บแรกเลยก็คือ อันโดคุง (หรือจุน) นี่แหละที่ทำไม่ถูก แม้เขาจะปิดบังคนทั้งโลกเพราะไม่กล้า แต่เขากลับปิดบังคนที่รักเขาด้วยการรับรักทั้งที่ตัวเองเป็นเกย์

อีกสิ่งที่จุนทำอยู่ ก็คือ การมีความสัมพันธ์ทางเพศกับมาโคโตะอย่างลับๆ ซึ่งมันคือการคบชู้เพราะตัวชายคนนั้นเขาก็มีลูกมีเมียเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว เรื่องนี้ ไม่ว่าคนดูคนไหนก็คงไม่เห็นด้วย จริงอยู่ ว่าเราอาจเศร้าใจที่เขาไม่มีความกล้าพอจะเปิดเผยตัวเอง แต่การคบชู้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำเช่นกัน

แต่ดูไปสักพัก เราก็พบว่า แท้จริงแล้วอันโดคุงต้องการมีชีวิตแบบคน ‘ปกติ’ คือ การแต่งงาน มีลูก ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ทำให้เราคิดว่าเพราะสังคมไม่ยอมรับคนเป็นเกย์หรือเปล่า พาให้เขาคิดว่าเขาอยากจะมีชีวิตแบบที่คนคิดว่านั่นคือ ‘ปกติ’ เลยต้องทำตัวเนียนไปกับสังคม แล้วก็ปิดบังตัวตนต่อไป หลังจากนั้น เราก็เริ่มได้เห็นมุมมองของการเลือกจะรับรักของจุน ทำให้เราเข้าใจมุมมองของเขามากขึ้นและเริ่มตั้งแง่กับเขาน้อยลง

ประเด็นนี้ เราอาจยังไม่ค่อยเข้าถึงนัก เหมือนเช่นที่หนังพูดถึงหลายคนว่า พวกเขาอาจพูดว่า “เข้าใจ” คนที่ไม่กล้าเปิดเผยตัวเองว่าเป็นเกย์ แต่ที่จริงแล้วพวกเขาก็ไม่ได้เข้าใจจริงๆ เมื่อใดที่รู้ว่าเพื่อนเป็นเกย์ พฤติกรรมที่เขาปฏิบัติต่อเพื่อนคนนั้นก็อาจแตกต่างไปในทันทีมากบ้างน้อยบ้างแล้วแต่คน แต่สิ่งหนึ่งที่เราพอรู้ตัวเองเลยคือ ใจเราเปิดกว้างยอมรับเพื่อนและคนรู้จักที่มีรสนิยมทางเพศที่หลากหลายขึ้นมาก

ทีเซอร์ตัวอย่างหนังเรื่องนี้อาจจะแอบสับขาหลอกคนดูไปบ้างนิดหน่อย เพราะเนื้อแท้และแก่นแท้จริง ๆ ของ ฉันวาย นายเกย์ ขอหัวใจอย่าเซย์โน ยอมรับเลยว่าค่อนข้างหนักหน่วงและหม่นกว่าที่คิดเอาไว้พอประมาณทีเดียว นี่ไม่ใช่แค่หนังวัยใส ที่สาววายมาแอบชอบหนุ่มเกย์แบบโบ๊ะบ๊ะอะไร แต่มันกลับเป็นหนังญี่ปุ่นที่สะท้อนสังคมได้อย่างน่าทึ่ง กับความพยายามสื่อสารข้อความบางอย่างที่แม้แต่สังคมญี่ปุ่นเองก็ยังไม่กล้าที่จะเปล่งเสียงออกมาได้เต็มคำ

What She Likes

หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิยายของนักเขียน นาโอโตะ อาซะฮาระ” ที่เคยถูกนำมาไปขึ้นจอเป็นมินิซีรีส์เบา ๆ ทางช่องเอ็นเอชเคมาก่อน เมื่อปี 2019 ก่อนจะถูกหยิบมาขึ้นจอใหญ่ในครั้งนี้ ด้วยฝีมือของผู้กำกับ โชโกะ คูซาโนะ” ที่เขายังรับหน้าที่ดัดแปลงเขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเองอีกเช่นเคย และกลั่นกรองออกมาเป็นหนังญี่ปุ่นที่เต็มไปด้วยความข้อความสำคัญ ๆ เกี่ยวกับการความหลากหลายทางเพศ โดยเฉพาะการเปิดใจยอมรับเข้ากับสังคมอย่างเปิดเผย

ช่วงแรก ๆ ของหนังอาจจะปูเรื่องมาด้วยทิศทางผ่อนคลาย ใส่ความใสและความน่ารักของวัยรุ่นเข้ามากำลังพอดี แต่เมื่อจุดเครื่องติดและย่างเข้าสู่ช่วงครึ่งหลังแล้ว หนังค่อย ๆ กดอารมณ์ผู้ชมไปทีละน้อย ผ่านภาวะและความรู้สึกของตัวละครที่เกือบจะเข้าถึงแก่นแท้ได้เลย แม้ว่าจะน่าเสียดายที่การเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้ ยังค่อนข้างขาดความกระชับ และเล่าไปได้อย่างช้าเนิบเกือบจะน่าเบื่อไปในหลายจุด เพราะหนังก็ยังคงมีความเป็นญี่ปุ่นถูกใส่เข้ามาตามสูตร หากสามารถทำให้กระชับขึ้นกว่านี้สักหน่อย น่าจะกลมกล่อมกำลังพอดี เว็บดูหนัง

แต่เอาจริง ๆ แม้ว่าข้อความเกี่ยวกับเรื่องความหลากหลายทางเพศของหนังเรื่องนี้นั้น จะพยายามเค้นออกมาอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังสัมผัสได้ว่าหนังยังไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้สุดเต็มกำลัง ยังใช้วนอยู่ในพื้นที่เซฟโซนของตัวเองในบางจุด ทำให้หนังที่น่าจะไปสุดได้กว่านี้ ยังรู้สึกก่ำกึ่งและครึ่ง ๆ กลางอยู่ไปหน่อย แต่อย่างน้อย หนังก็ยังมีข้อดีมากกว่าข้อด้อย โดยเฉพาะแนวทางในการสร้างความเชื่อมโยงในความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครต่าง ๆ ที่ถ่ายทอดออกมาได้ค่อนข้างชัดดี

การแสดงของนักแสดงก็ถือว่าเป็นองค์ประกอบที่ช่วยบัลลานซ์ตัวหนังเอาไว้ได้ ฟูจู คามิโอะ” แบกรับหนังเรื่องนี้ในด้านความสับสนและการค้นหาตัวเองที่ออกมาจากอินเนอร์ทางการแสดงของเขาที่น่าพอใจ ในขณะที่ อันนะ ยามาดะ” มาเป็นตัวแทนในด้านความสดใสของเขา ที่ต้องแปดเปื้อนกับผลจากการกระทำของอีกตัวละคร ที่เมื่อทั้งคู่มาอยู่ด้วยกัน กลายเป็นการแสดงที่เกื้อหนุนกันดีและประคับประคองหนังไปได้ตลอดทาง

แอบคิดอยู่เล็ก ๆ เหมือนกันว่า ถ้าหากว่า  ฉันวาย นายเกย์ ขอหัวใจอย่าเซย์โน ไม่มีการใส่อินเนอร์ความกระจ่างใสเข้ามาสอดแทรกในหนังเรื่องนี้ ก็น่าจะทำให้หนังเรื่องนี้เป็นดราม่าที่หม่นจัด ๆ ไม่เบาเลยทีเดียว และอาจจะหม่นหมองเกินไปสักหน่อย แต่จังหวะที่หนังเลือกใช้เข้ามาทั้งหมดก็ถือว่ากำลังพอเหมาะพอดี ไม่เบาไปและก็ไม่หนักเกินไป ด้วยสูตรสำเร็จตามแบบฉบับญี่ปุ่น แต่หนังก็ทิ้งข้อความเอาไว้ในผู้ชมได้คิดตามอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะฉากสุดท้ายของเรื่องนี้ ที่แอบขนลุกกับแนวคิดของตัวละครทั้งคู่ไม่เบา

นับว่าเป็นดราม่าที่มีประเด็นเกี่ยวกับการเปิดรับความหลากหลายทางเพศที่อาจจะยังไม่ได้เปิดทางออกได้สุด แต่ก็เป็นสิ่งที่ค่อย ๆ พยายามให้สังคมเปิดใจและกล้าที่พูดสิ่งเหล่านี้ออกมาได้ด้วยน้ำเสียงที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น แน่นอนว่าเราทราบกันดีว่า สังคมญี่ปุ่นยังไม่ได้เปิดรับกับความหลากหลายมากนั้น แต่ปัจจุบันยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว และทุก ๆ สังคมก็ย่อมต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจและอยู่ร่วมกับความหลากหลายไร้ขอบเขต ที่เป็นโจทย์ที่หนังเรื่องนี้พยายามจะสื่อสารออกมานั่นเอง เว็บดูหนังฟรี

นอกจากเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างอันโดและมิอุระ สิ่งที่ภาพยนตร์นำเสนอออกมาได้ดีมากๆ คือการพาผู้ชมไปสำรวจความรู้สึกของทั้งคู่ที่ต้อง ‘หลบซ่อน’ ความชื่นชอบและรสนิยมทางเพศของตนเองจากสังคม เพื่อที่จะสามารถเข้ากับสังคมในโรงเรียนได้เหมือน ‘คนปกติทั่วไป’ พร้อมทั้งยังฉายภาพให้เราเห็นถึง ‘สาเหตุ’ ที่ทำให้เขาและเธอตัดสินใจปกปิดความชอบหรือตัวตนของตัวเองจากคนรอบข้าง เพื่อให้เราเข้าใจในการตัดสินใจของตัวละครมากยิ่งขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น แรงกดดันที่อันโดะต้องแบกรับจากขนบธรรมเนียมของญี่ปุ่นที่ใฝ่ฝันถึงการแต่งงานและการสร้างครอบครัวที่อบอุ่น แต่เนื่องจากรสนิยมทางเพศของตนเองที่ชอบในเพศเดียวกัน จึงทำให้เขารู้สึกว่าตนเองกลายเป็นคนแปลกแยกจากสังคม และส่งผลให้เขาเลือกจะปกปิดรสนิยมทางเพศของตนเองไว้ ขณะที่เรื่องราวของมิอุระก็แสดงให้เห็นถึงผลลัพท์ของการถูกคนรอบข้างล้อเลียน เพียงเพราะชื่นชอบการอ่านมังงะ BL จึงทำให้เธอต้องปกปิดความชอบของตัวเองไว้ เพื่อที่จะไม่ต้องเผชิญกับคำพูดเสียดแทงจิตใจอีก

จุดที่นับว่าเป็นหมัดเด็ดของหนังคงหนีไม่พ้นความขัดแย้งระหว่างแฟนตาซีของสาววายกับชีวิตอันหวานอมขมกลืนของเกย์หนุ่มที่ไม่อาจมีปากเสียงและบอกเรื่องราวของเขากับใครได้ ซึ่งเป็นมวลที่กระทบกับชีวิตตัวละครตลอดทั้งเรื่อง แต่แทนที่หนังจะออกมาฟูมฟายหรือจิ้นกระจายจนเละเทะ คุซาโนะ โชโกะ ผู้กำกับจาก ‘Bitter Sweet’ กลับบาลานซ์ซีนโรแมนติกชวนอมยิ้มระหว่างมิอุระกับอันโด ซีนดราม่าหนัก ๆ ในความสัมพันธ์คลุมเครือระหว่างอันโดกับมาโกโตะ และซีนชวนช็อกตอนท้ายเรื่องไปสู่บทสรุปที่สวยงามได้อย่างลงตัวมาก ๆ และในขณะเดียวกันมันก็ทำให้สารของเรื่องราวถูกขับเน้นออกมาได้อย่างหนักแน่นอีกด้วย

อีกจุดที่หนังทำได้ดีมาก ๆ คือการจำลองภาพและทัศนคติของคนญี่ปุ่นต่อเกย์ ซึ่งการเอามิอุระที่เป็นสาววายมาเป็นตัวจุดประเด็นก็นับว่าชาญฉลาดมาก ๆ จนทำให้เกิดซีนสุดเจ็บปวดและอึดอัดอย่างฉากทำการบ้านคณิตศาสตร์หรือการเอารูปปั้นเทพต่าง ๆ มาจิ้นกันในทำนองใครรุกใครรับโดยไม่รู้เลยว่าคนที่ฟังเธออยู่อย่างอันโดจะรู้สึกอย่างไร

หรือการเอาความสัมพันธ์ระหว่างมาโกโตะกับอันโดมาพูดถึง ‘ความปกติ’ ในความสัมพันธ์ก็นับว่าชวนคิดและคำนึงถึงความเจ็บปวดที่ทั้งคู่ต้องเผชิญอยู่ไม่น้อย มีคำถามหนึ่งที่อันโดถามมาโกโตะว่าหากเขากับภรรยาของมาโกโตะจมน้ำเขาจะเลือกช่วยใคร ซึ่งความเงียบของมาโกโตะก็เป็นคำตอบได้ดีที่สุดถึงความลังเลของเขา เพราะจะเลือกทางไหนก็ไม่ดีทั้งนั้น แต่ถึงจุดหนึ่งเขาก็ต้องเลือกซึ่งแน่นอนว่ามันต้องมีคนที่เจ็บปวดเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

สรุปแล้วหนัง สร้างเซอร์ไพรส์ให้ผมไม่น้อยเลย เพราะยอมรับว่าหนังโรแมนติกวัยรุ่นของญี่ปุ่นไม่ใช่แนวที่ผมสนใจเท่าไหร่ แต่จากบทหนัง การแสดงและองค์ประกอบต่าง ๆ ของหนังก็ทำให้ยาก ที่ใครได้ดูแล้วจะไม่ตกหลุมรักมัน

นังมุ่งเน้นถ่ายทอดความคิดของคนสองฝ่าย ฝ่ายที่เป็นชายหญิงทั่วไปกับฝ่ายที่เป็นเกย์ เปิดพื้นที่ให้ต่างฝ่ายต่างพูดถึงในมุมของตน และเมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะทั้งเข้าใจและยอมรับในความแตกต่างทางรสนิยมทางเพศของแต่ละคน และแน่นอนว่า หนังญี่ปุ่นต้องมีฉากเรียกน้ำตาจากผู้ชมอยู่แล้วซึ่งเขาก็ทำได้อย่างที่ต้องการ อาจมีรู้สึกอยู่บ้างว่า หนังน่าจะเพิ่มฉากที่ทำให้เห็นชัดกว่านี้ว่าการเป็นเกย์ของพระเอก มันยากลำบากต่อการใช้ชีวิตของเขายังไงบ้าง ที่เราคล้อยตามเพราะเรารู้สึกอยู่ก่อนแล้วรึเปล่า

อีกส่วนที่ชอบในหนังเรื่องนี้ คือ งานลำดับภาพ เขาถ่ายภาพสวยๆ ไว้หลายหนและเลือกใช้วิธีต่างๆ ในการเล่าได้อย่างเหมาะสม เช่นเดียวกับดนตรีประกอบ

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *