รีวิว godzilla king of the monsters

รีวิว godzilla king of the monsters

รีวิว godzilla king of the monsters

เป็นเพราะความพยายามของ โมนาร์ซ สถาบันวิจัยสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ที่ไม่สามารถระบุได้ เมื่อเหล่าสมาชิกในองค์กรต้องพบกับการต่อสู้กันระหว่างเหล่ามอนสเตอร์ยักษ์ …เผ่าพันธ์มนุษย์ที่เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้ายเต็มที  หนังแนะนำ

เป็นหนังภาคต่อเรื่องนึงที่เราแอบคาดหวังไว้สูง ด้วยความที่ภาคแรกหนังเล่าเรื่องพาร์ทมนุษย์หลายๆพาร์ทไว้น่าสนใจ แต่เหล่าไคจูอาจจะตีกันน้อยไปหน่อย คือมาตอนหนังเกือบจบแล้ว

พอมาภาคนี้หนังเลยจัดกันมาแบบเต็มๆ ซัดกันนัวมาก มนุษย์นี่เป็นเพียงตัวประกอบสำหรับศึกนี้สุดๆ แม้จะมีนักแสดงเด่นๆหลายคน แต่บทมันดูเบาบางมาก หลายๆส่วนไม่สามารถทำให้เราเชื่อได้ถึงแรงจูงใจของตัวละครนั้นๆเท่าที่ควร แม้นักแสดงจะเล่นได้ถึงอารมณ์และบทบาท …แต่มันก็ทำให้เราข้องใจอยู่นิดๆ ว่าอะไรจะผลักดันคนเราให้

ไปถึงจุดๆนั้น แต่ก็นั่นแหละ นี่เป็นหนังสัตว์ประหลาดตีกัน ถ้าไม่มีความสมเหตุสมผลพวกนี้ หนังก็อาจจะไปไม่ถึงจุดที่ทำให้สัตว์ประหลาดออกมาจัดความวินาศสันตะโรกันบนจอได้ถึงเพียงนี้ เรียกว่าถ้าใครชอบหนังไคจูตีกัน เรื่องนี้น่าจะถือว่าตอบโจทย์พอสมควรเลยครับ   ดูหนังออนไลน์

รีวิว godzilla king of the monsters

แต่พอดูหนังในช่วงแรกส่วนตัวผมก็คิดว่าน่าเบื่อจนเผลอหลับไปบ้างก็มีครับ แต่พอเข้าไปช่วงกลาง ๆ ของหนังหลังจากปลุกเหล่าไคจูแล้ว หนังก็สนุกขึ้นมากครับ การเซ็ตฉากในหนังนี่ก็ถือว่าทำได้ดีมาก ๆ สมจริงสุด ๆ แต่บางฉากก็ทำผมน้ำตาคลอได้เลยครับ [ ส่วนนี้อยากให้คนอ่านไปดูในหนังเองมากกว่านะครับ ] สิ่งที่ประทับใจสุด ๆ ก็คงจะเป็นฉากการต่อสู้ของเหล่าไคจูนี่แหละที่เป็นตัวชูโรง โดยเฉพาะคู่ก็อตซิลล่ากับกิโดร่าที่สู้กันดุเดือดมาก ๆ จนแทบลืมกระพริบตาเลยครับ ดูหนังฟรี

ส่วนซีจีในหนังเรื่องนี้ไม่ต้องอธิบายเลยครับ เนียนตามาก ๆ ยิ่งเหล่าไคจูนี่ไม่มีลอยเลยแม้แต่นิด ฉากเมืองต่าง ๆ ก็เนียนตาเหมือน ถ้าเทียบกับหนัง มาเวลเรื่องนี้ซีจีชนะขาด ยิ่งรายละเอียดบนตัวไคจูนี่ไม่ต้องพูดเลย เกล็ดเป็นเกล็ด ซีจีมันดีจนเหมือนเหล่าไคจูในหนังมันมีชีวิตจริง ๆ ยังไงยังงั้นแหละครับ godzilla king of the monsters สปอย

ส่วนนักแสดง อันนี้พูดตรง ๆ เลยนะครับมีคนที่ทางผู้เขียนรู้จักคนเดียวก็คงจะเป็นน้อง มิลล์ บ็อบบี บราวน์ ที่ฝากผลงานไปกับหนังเรื่อง สเตรนเจอร์ ธิงส์ ไปแล้ว ซึ่งส่วนการแสดงของน้องคือดีมากครับ ส่วนคนอื่น ๆ เรื่องการแสดงไม่เป็นสองรองใครเหมือนกันครับ ส่วนตัวคิดว่าทุนสร้างคงเน้นไปทางซีจีมากกว่าการที่จะดึงคนดัง ๆ มาแสดง

การดำเนินเรื่อง

ด้วยความที่ก็ติดตามมาตั้งเเต่สมัยเวอร์ชั่นต้นตำรับญี่ปุ่น กับการเอาสัตว์ประหลาดตัวนั่นตัวนี้มันปะทะกับก็อตซิลล่า ซึ่งมันคือความมันส์ ความบันเทิงแบบวัยเด็ก มันดูสนุกมากครับในตอนนั้น ..เมื่อมันถูกขยับขยายมาเป็นงานฮอลลีวูดบ้างก็อดใจไม่ไหวครับ จริงอยู่ที่ผ่านมาฮอลลีซุดอาจจะมีหนังมอสเตอร์ปะทะกันโครมครามอย่าง ดูหนังฟรี

King Kong หรือ Pacific rim …แต่ถ้าต้องการแบบมุมมองมนุษย์ที่เผชิญหน้ากับสัตว์สองตัว ตบตีกันให้เมืองเละ ผมว่านี่น่าจะเข้าข่ายอย่างนั้นมากกว่าและใครที่รอคอยอะไรแบบนั้น ผมว่าสมใจอยากกับเรื่องนี้ …ฉากเหล่ามอนสเตอร์ทั้งหลายทำออกมาได้ยิ่งใหญ่มาก อลังการ ภาพวิชวลมันได้ ดนตรีมันบิ้ว อารมณ์คนดูเลยสะพรึงกันไปตามๆ กัน

ถ้ารู้สกว่า GODZILLA 2014 มันกั๊กฉากก็อตซิลล่า ภาคสองนี่ก็คงต้องบอกว่าเอาให้สาสมกันไปข้าง คิดซะว่านี่คือหนังมวยปล้ำมอนสเตอร์ครับ เสิร์ฟฉากปะทะกันแบบว่าเต็มอิ่ม วิสัยทัศน์มุมมองในการให้ภาพเหล่านี้ก็น่าพอใจอย่างมากครับ มันส์สะใจ ห้ำหั่นกันแบบว่ายิ่งใหญ่ น่ากลัวเเละฮึกเหิมเอามากๆ godzilla king of the monsters เรื่องย่อ

รีวิว godzilla king of the monsters

พล็อตเรื่อง

ส่วนเนื้อเรื่องที่ดำเนินไป จริงๆ แล้วมันไม่ได้เข้าข่ายแย่หรือเซ็งเป็ดจนต้องเรียกงานนี้ว่า ‘ดูเอามันส์อย่างเดียว’ ภาคนี้มันยังไม่ดาวน์ขนาดนั้นครับ ส่วนตัวคิดในแง่หนึ่งก็ดูตามรากเหง้าจากฉบับญี่ปุ่นดีครับหรือก็คงตามสไตล์หนังผู้ร้ายอยากเปลี่ยนแปลงโลกแนวๆ นี่แหละครับที่ว่า มนุษย์ผู้โลภมาก อยากจะควบคุมนั่นอยากจะควบคุมนี่แบบหน้ามืดตามัว

ไม่ได้คิดถึงความฉิบหายข้างหน้าว่ามันเกินคาดขนาดไหน มันก็ตามสไตล์แหละครับ มันมีอยู่เพื่อผลักดันให้ไปสู่ฉากพบเจอสัตว์ประหลาดครับ ไม่ได้แย่หรือชวนร้องยี้หรอกครับเพียงแต่พาร์ทมอนสเตอร์สสู้กันมันโดดเด่นและคือตัวขายของแท้สำหรับภาคนี้ครับถือว่าสอบผ่านในการมอบความคาดหวังในการมาดูอะไรมันส์ๆ ยิ่งใหญ่ สะเทือนใจ แบบที่เคยเป็นมาจากฉบับญี่ปุ่น ความอลังการอะไรต่างๆ บอกเลยว่างานนี้ไม่น่าจะพลาดกัน ดูหนังออนไลน์

ในส่วนของ IMAX ก็ต้องบอกว่าพี่ก็อด และสหายไคจูทั้งหลาย อลังการและน่าตื่นตาตื่นใจมากๆ แต่งานภาพ 3D ยังไม่ได้เห็นความแตกต่างมากนัก (คือมันไม่ได้ 3D ชัดมาก ที่เด่นจะเป็นเรื่องขนาดภาพมากกว่า) มุมกล้องหลายๆมุมทำออกมาดี และถือว่าเป็นงานภาพที่สวยงามมากๆ ไม่ว่าจะเป็นมอธร่า หรือ กิโดร่า ก็ดูอลังการ

โดยรวมผมคิดว่าหนังเรื่องนี้น่าจะถูกใจคอหนังที่อยากดูสัตว์ประหลาดตีกันนั่นล่ะครับ เพราะอัดมาเต็มเหนี่ยวมากๆ แต่บทหนังอาจจะมีช่องโหว่พอสมควรตามที่ได้บอกไปแล้ว ทั้งนี้ผมไปดูพร้อมกับเพื่อนที่เป็นแฟนคลับก็อดซิลล่า เพื่อนผมบอกว่าหนังค่อนข้างใส่ใจกับรายละเอียด และเคารพต้นฉบับพอสมควรเลยครับ godzilla king of the monsters เนื้อเรื่อง

รีวิว godzilla king of the monsters

รีวิว godzilla king of the monsters บทสรุป

อีกเหตุผลนึงที่อาจจะทำให้ตัวเองเผลอหลับไปได้คือ ความอินกับก็อดซิลล่าเนี่ยแหละ ส่วนตัวมีความรู้เกี่ยวกับจักรวาลหนังก็อดซิลล่าน้อย(ถึงน้อยมาก) รู้จักแค่ก็อดซิลล่า, มอธร่า, คิงกิโดร่า เลยทำให้หลายๆ ที่ได้ดูไปทำให้รู้สึกเฉยๆ น่ะ  godzilla king of the monsters บทสรุป

โทนหนังของภาคนี้น่าจะถูกใจผู้ชมในกลุ่มเด็กผู้ชาย ที่ชอบตัวประหลาดยักษ์เสียมากกว่า เพราะบรรยากาศหนังออกไปแนวอุลตร้าแมนมาก จากภาคก่อน ๆ ที่วางบทบาทของก็อดซิลล่าให้เป็นสัตว์ประหลาดยักษ์ยุคดึกดำบรรพ์ซุกตัวอยู่ใต้ทะเลลึก เพื่อหนีห่างจากมนุษย์โลก ตัวก็อดซิลล่ายังมีความลึกลับน่ากลัวให้สัมผัสได้ ในโทนที่ใกล้เคียง

กับบรรดาไดโนเสาร์ในแฟรนไชส์ Jurassic Park ทุกครั้งที่แนะนำไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ ก็ต้องลุ้นกับภาพลักษณ์และพิษสงของมัน แต่กับบรรดาอสูรยักษ์ใน Godzilla: King of the Monsters กลับไม่มีความลึกลับน่ากลัวเหลือให้สัมผัสเลย แต่ละตัวเหมือนสัตว์ประหลาดในหนังอุลตร้าแมนที่ออกมาตบตีกันตุ้บตั้บ แล้วมีท่าไม้ตายด้วยการปล่อยแสง

เป็นภาคที่พาเหล่าอสูรยักษ์ยกระดับไปไกลจนไม่คงความเป็นสัตว์ดึกดำบรรพ์ให้เห็นอีกต่อไป ฉากที่บรรดาอสูรยักษ์ตีกันก็พอบันเทิงดี ชอบที่สุดคือฉากโรดันต่อสู้กับเครื่องบินรบเป็นฉากที่ยาวและสนุก

รีวิว godzilla king of the monsters

โดยรวมหนัง

แม้จะทำใจไว้แล้วว่านี่คือหนังสัตว์ประหลาดที่สร้างโดยฮอลลีวู้ด ต้องปล่อยวางเรื่องตรรกะความเป็นจริงให้มากที่สุด แต่ในรายละเอียดของหนังเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละคร ความคิดการตัดสินใจของตัวละคร ที่เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ก็ช่างดูไร้เหตุผลโดยสิ้นเชิง ทั้งหมดต้องชี้นิ้วไปที่คนเดียวคือ ไมเคิล โดเฮอร์ตี้ ผู้กำกับที่เหมาหน้าที่เขียนบทเองด้วย กับการเพิ่มตัวละครบุคคลเข้าไปอีกมากในหนังที่มีอสูรยักษ์วิ่งกันเต็มจอไปหมดแบบนี้ ตัวละครมนุษย์หลาย ๆ ตัวก็ดูใส่เข้ามาให้เกินความจำเป็น

แต่ว่าภาคนี้ดึงตัวละครจากภาคที่แล้วมาเกือบครบ แล้วยังเพิ่มตัวละครใหม่ ๆ เข้าไปทั้ง จางซิยี่ , โอเชียร์ แจ็คสัน และ ชาร์ล แดนซ์ ที่แต่ละคนก็เล่นกันด้วยอารมณ์หน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนกันหมด พอเพิ่มเรื่องราวของฝั่งมนุษย์ก็เลยกลายเป็นความกังวลที่จะต้องแบ่งน้ำหนักเฉลี่ยมาให้บรรดาตัวละครมนุษย์ โดยเฉพาะฉากดราม่าที่ไม่ได้สร้างอารมณ์ร่วมเลยแม้เพียงนิด ฉากการเสียสละชีวิตของตัวละครหลักก็ใส่เข้ามาตามสูตรสำเร็จในหนัง ตามธรรมเนียมหนังภัยพิบัติ ฉากดราม่าพ่อแม่ลูกก็เช่นกันตามสูตรเป๊ะที่จะต้องเห็นอกเห็นใจกันท่ามกลางภัยพิบัติ บทเมดิสัน ของมิลลี่ บ็อบบี้ บราวน์ ยังคงเอกลักษณ์ของตัวละครเด็กสาวในหนังภัยพิบัติที่เป็นตัวสร้างภาระความวุ่นวายในหนังประเภทนี้

สำหรับหนังในแนวนี้ที่ชื่อเรื่องยังสปอยล์ให้คนดูรู้ผลลัพธ์กันตั้งแต่ชื่อเรื่องว่าใครคือผู้ชนะ ฉะนั้นบทภาพยนตร์คือสิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง ว่าจะเล่าเรื่องราวที่คนดูรู้บทลงเอยอยู่แล้ว ให้สนุก ชวนลุ้น น่าติดตามได้อย่างไร ก็ต้องถือว่า ไมเคิล โดเฮอร์ตี้ ยังไม่ใช่ผู้กำกับที่เหมาะสมกับหนัง 200 ล้านเรื่องนี้

Godzilla: King of the Monsters เหมาะจูงลูกจูงหลานเข้าไปดูสัตว์ประหลาดยักษ์ตีกัน 2 ชั่วโมงกว่า ๆ ห้ามคาดหวังความสมเหตุสมผลของเนื้อหา อย่าคิดตามการตัดสินใจของตัวละคร ดูโรงธรรมดาก็พอ ไม่ต้อง 3 มิติ ไม่ได้เพิ่มอรรถรสใด ๆ ให้กับหนังเลย หนังมีฉากหลังเครดิต 1 ตัว ปูทางไป Godzilla vs. Kong ที่วางกำหนดฉายไว้ปีหน้า

ติดตามรีวิวหนังอื่นๆได้ที่   หนังฝรั่ง netflix แนะนํา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *